DUNKIRK (2017)

DUNKIRK (2017)

ตั้งแต่เปิดตัวภาพยนต์เรื่องล่าสุดของคริสโตเฟอร์ โนแลน เรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมก็ติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่ห่าง ๆ เนื่องจากตัวอย่างแรกที่เปิดออกมาไม่รู้เลยว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปค้นคว้าหาข้อมูลไว้ล่วงหน้าเพราะไม่มีแรงจูงใจขนาดนั้น

จนกระทั่งได้กำหนดวันฉายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วก็เริ่มเปิดรับข้อมูลมากขึ้นเช่นดูคลิ้ปตัวอย่างฉบับต่อมารวมถึงดูคลิ้ปสัมภาษณ์นักแสดงบ้างนิดหน่อย จนเริ่มได้ข้อมูลพื้นฐานบ้างแล้วว่าเป็นเรื่องราว ณ สงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมัน เหตุการณ์ที่ทหารมากถึง 4 แสนนายถูกกดดันจนต้องมารวมกันอยู่ที่หาดดังเคิร์กเพื่อหาทางกลับบ้าน

ข้อมูลทางเทคนิดที่ได้รับคือโนแลนตั้งใจถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้ด้วยระบบ IMAX ทั้งเรื่อง นี่เองจึงเป็นเหมือนจุดประกายว่าต้องเลือกชมในโรงที่ฉายระบบนี้เท่านั้นจึงจะได้สัมผัสความตั้งใจของผู้กำกับอย่างแท้จริง

วันนี้จึงเลือกไปชมในเซ็นทรัล เวสเกท ที่มีโรงฉายระบบ IMAX อยู่โรงหนึ่ง สะดวกกว่าเดินทางไปยังโรงอื่น ๆ ในเมืองเป็นไหน ๆ แถมก็ยังเป็นโรงที่ใหม่กว่าอีกด้วย ไม่ได้ฉายในระบบสามมิติแบบ Ghost in the Shell (2017) ค่าตั๋วจึงถูกกว่าสามสิบบาท อยู่ที่ 220.- บาทขาดตัว

ที่นั่งหมายเลข G16 ในระบบจองตั๋วไม่ได้แสดงว่าแถวนี้อยู่ตรงทางเดินพอดี  บังเอิญแถวถัดไปตรงกลางนี้มีคนซื้อไปแล้ว กลายเป็นว่าจุดนี้นั่งสบายกว่าเพราะจะยืดขาอย่างไรก็ไม่รบกวนคนข้างหน้า

เรียกว่าไปดูแบบตัวเปล่า ตั้งใจจะให้ผู้กำกับพาไปทุกที่ที่ต้องการแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตัวหนังแบ่งเป็นเหตุการณ์สามส่วนหลักจากสามมุมมองคือ จากหาดดังเคิร์ก จากเครื่องบินขับไล่อังกฤษที่ปฏิบัติการร่วม และจากเรือประมงที่เดินทางจากชายฝั่งอังกฤษไปยังดังเคิร์ก โนแลนพาเราไปลุยหาดทราย ดำน้ำ บินสู้กับเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด และโดยสารไปกับชาวประมงผู้เสียลูกชายไปกับภารกิจการบินเมื่อเร็วๆ นี้เอง

หนังบรรจงบรรจุเราให้เป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์แต่ละสถานการณ์ ถูกกดดัน ถูกท้าทาย และถูกทดสอบต่าง ๆ นานา ทั้งโดยภาพที่ฉายอยู่เบื้องหน้า เสียงประกอบความถี่ต่ำจากเบื้องล่าง ล้วนตั้งใจพาความรู้สึกของเราให้ติดลบลงไปทีละน้อย ๆ แม้จนสุดท้ายหนังกำลังจะจบ โนแลนพยายามพากลับไปสู่ความสงบสุขในบั้นปลายก็อยากบอกเลยว่าคุณทำไม่สำเร็จนะ ผมยังรู้สึกว่ายังอยู่ที่ก้นเหวที่คุณพาไปทิ้งไว้อยู่เลย

บทและพล็อตเรื่องบอกได้คำเดียวว่าไม่มีอะไรเลย มาทราบข้อมูลภายหลังว่าเป็นความตั้งใจของผู้กำกับเองที่ต้องการพาเราไปร่วมเหตุการณ์จริงๆ มากกว่า ไม่ว่าจะโดนทิ้งระเบิดใส่ ถูกตอปิโดยิงจบเรือล่ม ถูกเครื่องบินรบยิงจนต้องลงจอด จมน้ำอยู่ใต้ท้องเรือที่มีรู้รั่ว หรือกำลังแล่นเรือเข้าไปช่วยนายทหารที่เพลี้ยงพล้ำ ได้ประสบการณ์ร่วมอย่างแท้จริง

อย่าหวังว่าจะได้พบความซับซ้อนซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศแบบหนังเรื่องก่อนๆ ของเขาโดยเด็ดขาด แต่ก็ต้องขอแนะนำไว้ด้วยเลยว่าโนแลนไม่ได้มีดีเพียงเรื่องพวกนั้น เรื่องคุณภาพการผลิตตั้งแต่การเขียนบท การกำกับ การถ่ายทำ ทุกอย่างเป็นไปตามคุณภาพงานของเขาอย่างแท้จริง

สิ่งหนึ่งที่เปล่งประกายอยู่ตลอดทั้งเรื่องก็คือปฏิภาณไหวพริบและอารมณ์ร่วมของตัวแสดงทุกคน ไม่ได้โดดเด่นล้ำหน้าสถานการณ์ ไม่ได้ทำเท่ให้หล่อหรือดูดี แต่มีสมองที่จะเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างแท้จริงแบบคนธรรมดา อย่างนี้ต่างหากที่เป็นลายเซนต์ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน

หนังยาวเพียง 106 นาที ควรเตรียมตัวให้ดีจะได้ไม่ต้องลุกจากที่นั่งไปทำธุระอื่นใดให้รบกวนผู้ที่นั่งชมอยู่รอบข้าง จากนั้นก็ปลดปล่อยตัวเองให้ผู้กำกับพาไปสัมผัสเหตุการณ์ที่คุณคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสจริงด้วยตัวเอง

ส่วนผมได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็คงกลับมานั่งศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์เกี่ยวกับดังเคิร์กและเบื้องหลังการทำงานของคณะผู้สร้างภาพยนต์เรื่องนี้อีกสักหน่อย เพื่อประดับความรู้

เพิ่มเติม ​26 ก.ค. 2560

ดูรอบแรกไปแล้วได้ทราบข้อมูลเสริมมาอีกว่าหากต้องการรายละเอียดของภาพที่ถ่ายทำด้วยระบบ IMAX แบบ 70 มม. ต้องไปดูในโรงที่ฉายด้วยระบบนี้อย่างแท้จริง และสำหรับประเทศไทยมีเพียงโรงเดียวเท่านั้น

วันนี้จึงรีบไปให้ทันรอบแรก 10:30 ณ สยามพารากอน ยอมลงทุนกับค่าตั๋วที่ไม่มีส่วนสดพิเศษวันพุธเสียด้วย ที่นั่ง G19 อยู่กลางโรงพอดิบพอดี นับว่าคุ้มค่าเงิน 450.-  บาทขาดตัว

รอบนี้ไม่ถูกกดดันด้วยอารมณ์ของหนังอีกแล้ว แต่ได้รายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมมาอีกเยอะมาก รวมถึงรอยบนแผ่นฟิล์มก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

ครั้งนี้เข้าใจแล้วว่าเหตุการณ์ทั้งสามคือหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ท่าเรือ ณ ดังเคิร์ก หนังวันก่อนที่ชายฝั่งอังกฤษ และหนึ่งชั่วโมงก่อนบนน่านฟ้านั้น สอดรับและผสานกันอย่างไร โนแลนตั้งใจเขียนบทให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ส่งและรับสารต่อเนื่องกันอย่างไรจนเป็นเนื้อเดียวกันและยังคงรักษาบริบทของแต่ละส่วนได้อย่างเหนียวแน่น คิดว่าผู้กำกับและเขียนบทที่ทำอย่างนี้ได้มีเพียง คริสโตเฟอร์ โนแลน และ ปัค ชาน วุค สองคนเท่านั้น

เข้าใจความรู้สึกของคุณดอว์สัน ผู้สูญเสียลูกชายนักบินของ Royal Air Force ไป จึงต้องการเข้าไปช่วยนักบินเครือง Spitfire ที่ลงจอดฉุกเฉินในน้ำ ได้เห็นถึงสภาพทางจิตวิทยาของพลทหารทั้งหลายใต้ท้องเรือหาปลารั่ว ๆ ที่กำลังจะได้แล่นออกจากฝั่งเมื่อน้ำทะเลหนุนสูงพอแล้ว เรียกว่าได้เห็นตัวตนของตัวแสดงแต่ละตัวมากขึ้นนั่นเอง

อีกส่วนที่ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนวันนี้คือได้ดูฉากบนท้องฟ้าที่เกิดขึ้นทุกฉาก มีตั้งแต่ความกดดันตื่นเต้น ความสวยสดงดงาม และความประทับใจ โดยเครื่องบิน Spitfire กับแสงธรรมชาตินั้นสวยจริง ๆ และฉากท่าเรือจากมุมสูงนั้นระคนไปด้วยอารมณ์มากมายเช่นกัน

รอบที่สามคงนั่งดูแผ่นบลูเรย์ที่บ้านพร้อมกันข้อมูลเบื้องหลังที่จะบรรจุมาให้อีกมากมาย หวังว่าอย่างนั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม

SaveSave

SaveSave