เว้นวรรคไปหนึ่งสัปดาห์

ผมควรจะเขียนเรื่องประจำสัปดาห์นี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะตั้งใจว่าวันอาทิตย์กว่าจะกลับมาก็บ่ายๆ จะได้ชั่งน้ำหนักก็เช้าวันจันทร์ แต่เมื่อวานกลับทำโน่นทำนี่จนลืมไปเลย มานึกขึ้นได้ก็ตื่นนอนเช้านี้พอดี

สัปดาห์ที่แล้วไม่ได้ออกกำลังกายเลย แม้แต่ที่ตั้งใจไว้ว่าวันจันทร์และอังคารน่าจะได้เดินบ้าง แต่เดินกลางฝนคงไม่ดีต่อการเข้าอบรมในวันพุธถึงวันอาทิตย์แน่ มาชั่งน้ำหนักเช้าวานนี้ได้เก้าสิบสองกิโลครึ่งก็รู้สึกว่าแม้ไม่ได้ออกกำลังกายก็ลดน้ำหนักได้

นั่นควรจะเป็นอานิสงฆ์ของการมุ่งมั่นออกกำลังกายก่อนหน้านั้นมาเป็นเวลาพอสมควร แม้ระหว่างการอบรมทาง มสธ. จะมีบริการอาหารอย่างเต็มที่ และด้วยระบบอัตโนมัติในจิดก็สั่งให้ตักอาหารมากกว่ามื้อปกติที่บ้านอยู่เหมือนกัน คงเป็นเพราะกลัวหิวระหว่างมื้อและจะไม่มีขนมขบเคี้ยวรองรับ แต่ที่น่าภูมิใจก็คือสามารถควบคุมตัวเองไม่ให้กินมื้อดึกที่ทาง มสธ. เตรียมไว้ให้ในการพักช่วงอบรมตอนค่ำ เล่นเอาคืนแรกท้องร้องก่อนสว่างหลายชั่วโมง เกือบนอนไม่พอ

กิจกรรมหลังมื้อเช้าและเย็นก็ช่วยใช้พลังงานได้บ้าง ที่สำคัญช่วยปลุกจากอาการหนังท้องตึงหนังตาหย่อนได้ดีนัก อีกทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องกระตืนรือร้นอยู่เสมอก็น่าจะเผาพลังงานไปได้อย่างดี

ไม่แน่ใจว่าการหัวเราะจะเป็นปัจจัยช่วยด้วยหรือเปล่า เพราะได้หัวเราะทั้งวันเลย