Tag Archives: nike+

my life as a runner.

เหตุเพราะตามใจ

จะตีหนึ่งแล้วยังนอนไม่หลับเพราะหิว พอเปิดทีวีดูเจอเรื่องรวมพลคนช่างกินปี 2 แย่กว่านี้มีอีกไหม ตบะแตกสิครับ

เริ่มต้นด้วยความรู้สึกขำขำ แต่ลงท้ายเป็นความขมขื่น สัปดาห์นี้เสียการควบคุมทั้งหมดไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ‘ออกกำลังแล้วจะกินอะไรก็ได้’ กลายเป็นว่าพอตกเย็นลงเมื่อใดจะต้องการกินเพื่อสนองความพอใจอยู่ตลอด พยายามเข้มงวดแล้วก็จะพบกับผลลัพธ์เป็นย่อหน้าที่แล้วนั่นเอง

การเดินเร็วบนลู่วิ่งไฟฟ้าสัปดาห์นี้มีความรีบเร่งเข้ามาเป็นปัจจัย แผนจึงเปลี่ยนมาเป็นการทำเวลาแต่ละช่วงกิโลเมตรให้เข้าเป้าตั้งแต่กิโลเมตรแรกที่สิบเอ็ดนาทีสิบเอ็ดวินาที ระยะสองกิโลเมตรที่ยี่สิบสองนาทียี่สิบสองวินาที ระยะสามกิโลเมตรที่สามสิบสามนาทีสามสิบสามวินาที ถึงสี่กิโลเมตรที่สี่สิบสี่นาทีสี่สิบสี่วินาที และครบแผนห้ากิโลเมตรที่ห้าสิบห้านาทีห้าสิบห้าวินาที

แผนนี้ช่วยให้การเดินเร็วมีความตื่นตัวและสนุกสนานยิ่งขึ้น โดยมีตัวช่วยสำคัญคือเพลงประกอบจากพ็อดรันเนอร์พ็อดคาสท์ เพลงที่ใช้สัปดาห์ที่แล้วมีจังหวะเร็วเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบสองบีทต่อนาที สัปดาห์นี้เปลี่ยนเป็นเพลงเร็วหนึ่งร้อยยี่สิบห้าบีทต่อนาทีแทน ส่งผลดีอย่างมากเลยทีเดียว

มีพักไปหนึ่งวันเนื่องจากตื่นไม่ไหว สะสมระยะทางเพิ่มอีกสามสิบกิโลเมตร เดือนนี้ทำได้ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรอีกครั้งแล้ว เป็นกำลังใจครั้งสำคัญเพื่อใช้กระตุ้นให้ทำต่อไป

ที่ว่าลงท้ายด้วยความขมขื่นเห็นผลได้จากน้ำหนักตัวที่ชั่งเช้านี้กลับไปอยู่ที่หนึ่งร้อยจุดสี่กิโลเมตรเหมือนเดิมอีกแล้ว รู้สึกแย่เหมือนกัน นั่งสงบสติอารมณ์อยู่พักหนึ่งจึงลุกขึ้นมาออกกำลังปิดท้ายสัปดาห์นี้เพื่อไม่ให้ความขุ่นมัวฉุดให้ตกต่ำลงไปกว่าเดิม

ความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ในสัปดาห์นี้ยังไม่ใช่เสื้อผ้าที่หลวมสบายตัวกว่าเดิม เป็นพลกำลังที่มีมากขึ้นแทน จะเดินขึ้นลงบันไดหรือเดินไกลไปทำกิจธุระข้างนอกก็ไม่รู้สึกอะไร ทำได้สบายมาก จะมีก็แต่แผนการออกกำลังที่ค่อยๆ เพิ่มความเร็วของสายพานตามระยะทางนั้นอาจจะทำให้ข้อเท้าและข้อหัวเข่าบาดเจ็บได้ ต้องคอยติดตามอยู่ตลอด

แผนที่จะข้ามอาหารมื้อเย็นคงยังไม่มีทางเป็นไปได้ในช่วงนี้ จำเป็นต้องเปลี่ยนมาเป็นควบคุมให้ได้กินอย่างพอเหมาะไปก่อนก็แล้วกัน

ฝึกฝน

โพสต์แรกของการกลับมาอีกครั้งได้รับกำลังใจจากเพื่อนๆ มากมายทยอยกันส่งมา ช่วยให้รู้สึกดีอย่างมาก ที่สำคัญคือไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

จากที่ออกปากไปว่าจะต้องเข้มงวดกับตัวเองในหลายๆ ด้าน เอาเข้าจริงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาวินัยในการนั้นขณะนี้ แต่ก็บอกกับตัวเองว่าต้องฝึกฝน

เห็นโพสต์ของไนกี้พลัสจากปีก่อนๆ ปรากฏมาให้ดูอีกครั้ง เห็นตัวเลขแปดกิโลบ้าง สิบกิโลบ้าง พยายามคิดว่าอย่างน้อยก็เคยทำได้ขนาดนั้น ช่วงนี้อาจจะยังทำไม่ได้เหมือนก่อน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือฝึกฝน

ช่วงต้นสัปดาห์ได้สภาพอากาศเป็นใจ ช่วยให้เดินเร็วต่อเนื่องนานถึงหกสิบนาที วันรุ่งขึ้นจึงทำซ้ำ วันรุ่งขึ้นก็ทำซ้ำ และทำซ้ำอีกอย่างนั้นเพื่อฝึกฝนร่างกายจนกว่าจะอยู่ตัว ฉะนั้นสิ่งสำคัญระหว่างการออกกำลังกายจึงต้องใส่ใจระเบียบร่ายกาย รวมไปถึงสภาพของข้อต่อต่างๆ ตลอดเวลา บางวันก็เดินดี บางวันก็เดินไม่ดี ปลายสัปดาห์อากาศเริ่มร้อนทำเอาเกือบท้อเหมือนกัน ความตั้งใจช่วยได้ และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน

9 - 15 ม.ค. 2560

สะสมระยะทางวันละห้ากิโลเมตรกว่าๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องอาหารการกิน ต้องยอมรับว่ายังทำไมได้อย่างที่ตั้งใจไว้ มีพลาดมีหลุดไปบ้างเนื่องจากความคุ้นเคยเดิมๆ และความหิวที่เข้ามารบกวนจนบางคืนนอนไม่หลับ ก็ต้องหาทางปรับกันต่อไป น้ำหนักชั่งเมื่อเช้าอยู่ที่เก้าสิบเก้าจุดเก้ากิโลกรัมแล้ว ไม่ปรุงแต่งเป็นความพอใจหรือไม่พอใจที่ทำได้อย่างนี้ คิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องฝึกฝนร่างกายและจิตใจให้รับสิ่งที่เข้ามากระทบให้ได้

เริ่มต้นใหม่

หยุดเขียนบันทึกไปหลายปีด้วยเหตุผลและเหตุการณ์ประดังประเดเข้ามา

ย้อนความสักนิดก็ดี ช่วงค่อนท้ายของปีสองห้าห้าแปดได้ไปตรวจสุขภาพอย่างจริงจังที่ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ด้วยว่าถูกอาการเกาต์กำเริบต่อเนื่องยาวนานเหลือเกิน ไม่เป็นอันคิดอ่านจะทำอะไรทั้งนั้น เมื่อผลออกมาว่าไตมีปัญหาจึงเริ่มต้นลดน้ำหนักแบบหักดิบเพื่อให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ความกลัวตอนนั้นช่วยให้ทำสำเร็จอย่างดีเยี่ยม

เมื่อได้พบหมอด้านไตอย่างเป็นกิจลักษณะก็ตั้งใจว่าจะรีบสร้างสุขภาพดีให้เห็นผลจริง แต่แล้วช่วงสิ้นปีก็ได้เข้าไปนอนรักษาโรคไข้เลือดออกที่ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ นับว่าหนักที่สุดในชีวิตเพราะไม่เคยเป็นอะไรขนาดนี้ ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ต้องฟื้นฟูร่างกายกันอีกนานพอสมควร มารู้ตัวอีกทีก็ได้เห็นน้ำหนักตัวที่เป็นแนวพุ่งลงก่อนป่วยกลายเป็นพุ่งขึ้นอย่างต่อเนืองในช่วงครึ่งหลังของปีสองห้าห้าเก้า

และสิ้นปีก็พุ่งกลับไปที่ตัวเลขสามหลักอีกจนได้ การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก็ตามมา แต่ด้วยยาแผนปัจจุบันสำหรับควบคุมโรคเกาต์ทำงานได้อย่างดี ยิ่งทำให้ขาดแรงกระตุ้นด้วยความกลัวแบบที่มีในช่วงแรกของการหักดิบลดน้ำหนัก

อย่างไรก็ดี ปีที่แล้วได้ทำความฝันอย่างหนึ่งให้เป็นจริงคือขับรถออกไปเที่ยว ช่วงกลางปีได้ไปเที่ยวโคราช ทางวังน้ำเขียวต่อปากช่อง ปลายปีได้ไปเที่ยวภาคเหนือจากน่าน ไปยังลำปาง ลำพูนและเชียงใหม่ ได้ขึ้นไปดอยสุเทพ และดอยอินทนนท์ครั้งแรกในชีวิต ต้องถือว่าได้ให้รางวัลกับตัวเองแล้ว

ปีใหม่นี้จึงต้องย้อนกลับมาเข้มงวดกับตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง ที่จริงตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาก็พยายามเริ่มต้นใหม่อยู่หลายต่อหลายครั้ง ผลคือสะสมคะแนนความล้มเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ พอมีเวลาได้ย้อนกลับมาส่องข้างในของตัวเองก็พบว่าคำตอบทั้งหมดล้วนอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้น จะทำหรือไม่ทำอะไร จะทำได้ต่อเนื่องหรือไม่ จะเอาชนะความเคยชินที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ได้หรือไม่ อยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้น

จึงเริ่มต้นเดินเร็วปรับร่างกายมาก่อนสักระยะ จากที่เคยทำได้แค่สามสิบนาที ระยะทางประมาณสามกิโล ก็เพิ่มเป็นห้ากิโลในวันปีใหม่และตลอดสัปดาห์แรกของปีนี้ ดูเหมือนร่างกายจะรับได้จึงเดินต่อไปจนครบหกสิบนาที เป้าหมายอยู่ที่ห้าจุดห้าห้ากิโลเมตร เป็นระยะแห่งความสุข

2 - 8 ม.ค. 2560

พักบ้างหนึ่งวันเพื่อได้ออกไปทำภารกิจอื่นๆ ของตัวเอง หรือจะเรียกว่าให้รางวัลกับตัวเอง หรือเป็นการพักเพื่อไปต่อก็ได้หมด ด้วยว่าเพื่อไม่ให้ตึงจนเกินไป

น้ำหนักตัวลดลงมาหนึ่งกิโลเหลือหนึ่งร้อยจุดสี่กิโลกรัม เป็นผลจากการพยายามควบคุมอาหารอีกครั้งเป็นหลัก กินผักกินสลัดให้มาก กินเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด หยุดขนมระหว่างมื้อ และที่สำคัญคือหยุดมื้อค่ำอย่างเด็ดขาด ต้องต่อสู้กับความหิวเพราะเคยชินอย่างหนัก รับมือด้วยการสร้างความคุ้นเคยกับความหิวนั้นแทน ก่อนนอนก็ต้องกินยาเพื่อควบคุมความดันและไตอยู่แล้ว ก็ได้กินน้ำแก้วใหญ่ๆ หนึ่งแก้ว

ที่จริงแม้กระทั่งการเริ่มเขียนบันทึกอีกครั้งก็ต้องใช้กำลังภายในอยู่ไม่น้อย นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเข้มงวดกับตัวเองเหมือนกัน

แกว่งไปแกว่งมา

กำลังใจจากเพื่อนๆ ยังคงหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ตั้งใจจะออกกำลังให้ได้ทุกวัน แต่สภาพการณ์มันแกว่งไปแกว่งมาระหว่างวันที่นอนได้อย่างมีคุณภาพกับวันที่นอนไม่พอ ผลคือบางเช้าก็ขอนอนต่อแทนที่จะได้ออกกำลัง

แผนการวิ่งยังคงอยู่ที่ระยะเวลาสามสิบนาที ยังคงอยู่ในช่วงฝึกวิ่งใหม่อีกครั้ง ไม่ต้องการบีบคั้นตัวเองจนเกินไป เริ่มต้นจากน้อยๆ ด้วยเป้าหมายว่าต้องเพิ่มคุณภาพขึ้นไปตามระยะเวลา

สัปดาห์นี้ออกกำลังไปได้สี่ครั้งด้วยความรู้สึกสบายๆ

Summary Week 201310

น้ำหนักชั่งเมื่อเช้าลงมาสองขีดอยู่ที่เก้าสิบห้าจุดสี่กิโลกรัม ยังพยายามควบคุมตัวเองอยู่บ้างเหมือนกันและก็ยังมีเวลาที่หลุดจากการควบคุมอยู่ไม่น้อยเลย บอกกับตัวเองว่าไม่อยากกดดันให้มากจนเกินไป เดี๋ยวระเบิดขึ้นมาจะพาเตลิดออกนอกลู่นอกทางไป เดี๋ยวความรู้สึกด้านลบจะยิ่งเกาะกินจิตใจ กลายเป็นปัญหาใหญ่โตได้ในอนาคต

จะพยายามบังคับตัวเองต่อไป ดูว่าร่างกายจะตอบสนองอย่างไร จิตใจจะดีขึ้นบ้างไหม เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา

ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนๆ

หมดไฟทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณไปช่วงหนึ่งจนเกือบจะรู้สึกว่าคุ้นเคยกับชีวิตที่ไม่มีการออกกำลังกายอีก รู้ตัวดีว่านั่นคือสัญญาณแห่งหายนะ แต่ปัจจัยแห่งความเสื่อมเริ่มแข็งแรงขึ้นทุกวัน ถึงกับต้องหยุดเขียนบันทึกอีกครั้งเพื่อปล่อยตัวปล่อยใจเรื่องนี้ ขณะที่เรื่องอื่นๆ กำลังรุมเร้ากันสนุกสนาน

พลันถึงเวลาใกล้จะหมดเดือนสองของปีนี้ เวลาเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยวิธีการโผอย่างเร็ว รู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามครั้งใหม่เพื่อสลัดทิ้งบางสิ่งและกู้บางอย่างกลับมา

จะให้เริ่มวิ่งแปดกิโลอีกครั้งทันทีกลายเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อมเข้าแล้ว ร่างกายยังจดจำความรู้สึกแย่ที่สุดจากการวิ่งครั้งสุดท้ายก่อนหยุดไปได้เป็นอย่างดี เมื่อตกสะเก็ดแล้วก็ยังคงต้องใช้ความพยายามอีกไม่น้อยเพื่อปลุกตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง เริ่มเดินอีกครั้ง

เริ่มกันอีกครั้งในปลายสัปดาห์ที่แล้วด้วยการเดิน เมื่อพอจะประเมินกำลังตัวเองได้แล้ว สัปดาห์นี้จึงเริ่มขยับขาให้เร็วขึ้นในกำหนดเวลาสามสิบนาทีเพื่อระยะทางสี่กิโลเมตร ตั้งใจว่าจะต้องฝึกตัวเองขึ้นมาให้ได้ สร้างความรู้สึกดีๆ ขึ้นมาใหม่ เป้าหมายคือต้องรักษาความเร็วให้ได้ตลอดช่วงเวลาโดยไม่มีการพัก

สถิติของเดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างนี้

Summary 201302

เริ่มสัปดาห์มาก็มีภารกิจต่างๆ ส่วนช่วงท้ายสัปดาห์หยุดไปเนื่องจากสภาพร่างกายที่ยังพักผ่อนไม่ดีนัก สัปดาห์นี้จึงสะสมไปได้เพียงเท่านี้

Summary Week 201309

ปัจจัยสำคัญที่สุดคือคุณภาพการนอน หากทำได้ไม่ดีนักไม่เพียงไม่อยากตื่นขึ้นมาออกกำลังแล้ว อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้อีกด้วย โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บภายในจิตใจ ยิ่งจะทำให้รู้สึกไม่ดีกับการได้ออกวิ่งครั้งใหม่นี้อีก

ทันทีที่ข้อมูลการวิ่งแสดงขึ้นบนไทม์ไลน์บนหน้าเฟสบุ๊ค เพื่อนๆ จากทุกวงการต่างทยอยเข้ามากดไลค์และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง นี่เองที่ช่วยให้รู้สึกว่าต้องซื่อสัตย์ต่อกำลังใจเหล่านั้น ต้องลุกขึ้นมาซ้อมวิ่งอีกต่อไปเรื่อยๆ

พยายามทั้งปรับคุณภาพการนอนและควบคุมนิสัยการกิน ทำได้ยากทั้งสองอย่าง ผลจากการชั่งน้ำหนักเมื่อเช้านี้อยู่ที่เก้าสิบห้าจุดหกกิโลกรัมเป็นตัวชี้วัดอย่างดีว่าต้องใช้ความพยายามอย่างหนักต่อไปอีกนาน

อย่างน้อยก็ได้กำลังใจมากพอสมควร ภารกิจข้างหน้ายังหน้กหนาสาหัสนัก