อาการกำเริบยังคงเรื้อรังราวกับจะปักหลักพักค้างเสียอย่างนั้น วันไหนได้อยู่บ้านก็ดูเหมือนจะหาย แต่พอวันไหนต้องออกไปทำภารกิจก็กำเริบขึ้นมาอีก
ทำให้ครั้งนี้ต้องพักยาวถึงสิบวัน กลับมาวิ่งออกกำลังกายได้อีกครั้งเมื่อวานนี้เอง เริ่มต้นก็ทำท่าไม่ค่อยอยากจะออกวิ่งสักเท่าไหร่เหมือนกัน
สัปดาห์นี้จึงทำระยะทางได้เพียงแปดกิโลเมตรและเริ่มมีสัญญาณเตือนจากเซนเซอร์ว่าแบตเตอรี่เหลือน้อยแล้ว
แผนสำหรับการชดเชยสถิติของเดือนพอจะมีรูปร่างจางๆ ในหัวอยู่เหมือนกัน จะทำได้หรือเปล่าต้องดูอีกที
เช้านี้ตั้งใจจะวิ่งทั้งที่เป็นวันอดล้างพิษอีกวัน กว่าจะเริ่มได้ก็สายแล้วจึงเลือกวิ่งเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แถมยังลืมชั่งน้ำหนักก่อนเสียด้วย
วิ่งเสร็จก็ติดพันกับกิจการของบ้านอยู่พักหนึ่งจึงนึกขึ้นได้ว่าต้องชั่งน้ำหนักแล้ว ได้ความว่าอยู่ที่แปดสิบแปดกิโลครึ่ง น่าจะเป็นผลจากการวิ่งที่ทำให้น้ำหนักลงไปก่อนเลยราวครึ่งกิโล บอกตัวเองอย่างนี้ไว้ก่อน
ระหว่างสัปดาห์ที่ไม่ได้วิ่งเลยก็ยังมีกิจนอกบ้านที่ทำให้ต้องนั่งร่วมโต๊ะจีนถึงสองวัน กลัวเหมือนกันว่าจะทำให้น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า ดีที่เป็นมื้อกลางวันทั้งสองวัน
เริ่มต้นสัปดาห์ก็คิดถึงน้ำส้มสายชูหมักจากแอ็ปเปิ้ลหรือแอ็ปเปิ้ลไซเดอร์วินีการ์จึงตัดสินใจซื้อมาชงน้ำผึ้งกินอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนเป็นกินหลังมือเย็นโดยหวังว่าจะช่วยลดความอยากที่เป็นเหตุของมื้อดึกได้บ้าง แต่ก็ตบะแตกในคืนวันศุกร์เข้าจนได้
ระหว่างพักรักษาตัว สมุนไพรมากมายก็ถูกจัดสรรมาบำบัดทุกข์ แน่นอนว่าต้องมีชาหญ้าหนวดแมว ไหนจะมีน้ำขิง ลูกเดือยต้มและกลับมาอีกครั้งคือน้ำส้มสายชูหมักแอ็ปเปิ้ล ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปรับสมดุลย์ในร่างกายให้เป็นปกติตามธรรมชาติ หากเมื่อไรที่น้ำหนักตัวลดลงไปกว่านี้ อาการของเกาต์ก็คงดีขึ้นไปด้วยแน่
และหวังว่าแผนรองรับของเดือนนี้จะทำได้จริง
