ผลการชั่งน้ำหนักเช้านี้ออกมาดีเอาเรื่องเลยทีเดียว ขึ้นชั่งครั้งแรกเข็มหยุดอยู่ที่เก้าสิบกิโล แต่ต้องชั่งซ้ำเพื่อความแน่ใจก็ได้ผลว่าอยู่ปริ่มๆ เก้าสิบกิโลไม่เกินเก้าสิบกิโลครึ่งไปแน่นอน เรื่องนี้สัมผัสได้จากการคาดเข็มขัดได้ปกติโดยไม่ต้องแขม่วท้องแล้ว กลับต้องพับเอวกางเกงทบกันให้เรียบร้อยเสียอีก
แต่ยังไม่ได้ลองใส่กางเกงขายาวดูว่าจะเป็นอย่างไร
สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ฤกษ์หยุดกาแฟอีกครั้ง เพราะตั้งใจไว้ก่อนนี้ว่าหากว่ากาแฟเอสเปรสโซ่ที่เหลืออยู่นั่นหมดเมื่อไหร่ก็จะเลิกดื่ม คุณหมอเฉกก็เคยพูดออกโทรทัศน์ว่าไม่ควรกินกาแฟ ระหว่างวันที่ปราศจากกาแฟนั้นจึงออกจะง่วงเหงาหาวนอนอยู่ไม่น้อย ชาเขียวใบหม่อนก็เอาไม่อยู่
จนบ่ายวันอังคารเกิดอาการไม่ค่อยดีในระบบทางเดินอาหาร จึงตัดสินใจว่าจะอดล้างพิษสักหนึ่งวัน บ่ายสามโมงวันนั้นจึงเริ่มโดยไม่รอช้า คราวแรกก็กลัวว่าถ้าอดอาหารแล้วจะเดินออกกำลังไม่ได้ แต่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเดินมาเป็นเดินแบบเบานานหนึ่งชั่วโมงแทน จึงจัดหาเพลงของวงบอดี้สแลมมาฟังระหว่างเดิน
พิษในกายเริ่มออกอาการตอนเที่ยงวันพุธ ได้นอนพักสักหน่อยก็รู้สึกดีขึ้น ตื่นขึ้นมาอ่านนิตยสาร ฅ.คน ที่ค้างอยู่ทั้งเรื่องประจำเล่มเกี่ยวกับสิงห์สนามหลวงและเรื่องสั้นประจำฉบับของเดือนวาด พิมพ์วนา ก็สามารถอ่านได้อย่างต่อเนื่องรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ จนตกกลางคืนก็ข่มตาให้หลับยากสักหน่อย เป็นธรรมดาเวลาท้องว่าง กว่าจะได้หลับก็เลยเที่ยงคืน เป็นอันว่าเช้าขึ้นมาคงไม่ได้เดิน จึงปิดท้ายการอดด้วยน้ำสองลิตรผสมน้ำมะนาวและเกลือตามหลังกล้วยไข่ไปติดๆ แล้วจึงเข้าห้องน้ำเพื่อระบายของเสีย นี่ถ้าหากได้สวนกาแฟด้วยคงดีไม่น้อย
สุดสัปดาห์จึงกลับมาเดินสิบกิโลตามแผนตามปกติ เช้านี้อาการปวดที่สะบักทั้งซ้ายและขวารบกวนเอาอย่างมาก แม้จะพยายามอบอุ่นร่างกายมาก่อน จำเป็นต้องพึ่งยามาช่วยทั้งหลังอาหารเช้าและอาหารกลางวัน
ดีที่สามารถคุมมื้อเย็นได้เป็นอย่างดี สัปดาห์หน้าเข้าสู่ช่วงเวลากินเจ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะติดขัดตรงไหนอีกหรือไม่ แม้เป้าหมายที่เก้าสิบกิโลมามาถึงแล้ว แต่การรักษาเป้าหมายนี้เอาไว้เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า
ตั้งใจไว้ว่าอีกสองสัปดาห์คงจะได้อดล้างพิษอีกครั้ง และจะคงความถี่ไว้ที่สองสัปดาห์ต่อครั้งนี้ไปเรื่อยๆ ดู