ตามใจปากเป็นหมู

หลังจากเดินไปปวดไหล่ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ต้องตัดสินใจใช้ยาแก้ปวดบวมอักเสบรักษากล้ามเนื้อเข้าช่วย ผลที่ได้ก็คือคืนนั้นนอนหลับสบายกว่าเคยในทันที ทำให้ตื่นเช้ามาสดชื่น ขับถ่ายคล่อง ความรู้สึกโดยรวมดีขึ้นมาทันที

ระหว่างวันก็ไม่ง่วงเหงาหาวนอน อย่างนี้เองที่ทำให้เมื่อก่อนต้องหันไปพึ่งกาแฟ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แถมทำลายสุขภาพดีด้วย ต่อนี้ไป หากรู้สึกง่วง ก็ล้มตัวนอนเสียหน่อย จะยี่สิบสามสิบนาทีก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตื่นขึ้นมาจะได้ทำงานต่อไป

สัปดาห์นี้ทางบ้านเริ่มทำอาหารเจตั้งแต่วันจันทร์เลย วัตถุดิบส่วนใหญ่ไปจ่ายตลาดมาตั้งแต่ศุกร์ก่อนนั้น แม้จะไม่ได้มีฉันทะเรื่องอาหารเจอะไรมากมาย แต่ก็ไม่เคยรังเกียจอาหารเจ แถมยังติดอกติดใจอย่างมากเสียด้วย

ขณะเดียวกันสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจทำให้ไม่สามารถเดินออกกำลังได้ทุกวันอย่างที่ตั้งใจ เพราะมีแผนการล่วงหน้าอยู่แล้วว่าวันเสาร์นี้จะไม่ได้เดินออกกำลัง ต้องไปทำบุญ ณ โรงเจ ที่บ้างบึง ชลบุรี ตามกำหนดวันที่สามของเทศกาลกินเจ แต่ฝนเจ้ากรรมก็เทลงมาขวางแผนการเดินให้กลายเป็นได้เดินเพียงวันเว้นวัน เช้าวันนี้จึงต้องออกเดินให้เต็มสิบกิโลตามแผน เพราะไม่รู้ว่าสัปดาห์หน้านี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

Summary Week 200740 071014 - 10.05km

เรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งเกิดขึ้นหลังจากออกจากห้องสุขาเพื่อเดินขึ้นตาชั่งในเช้านี้ เป็นไปได้อย่างไรที่น้ำหนักตัวดีดกลับไปอยู่ที่เก้าสิบสองกิโลครึ่งเสียแล้ว ทั้งๆ ที่เข็มขัดยังสามารถคาดได้เป็นปกติแล้ว หลังมื้ออาหารก็ไม่ได้อึดอัดแต่อย่างไร

เรื่องราวน่าจะเกิดตั้งแต่รู้ผลน้ำหนักเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว จากนั้นก็รู้สึกว่าจะสนุกกับการกินมากไปหน่อย ทั้งขนมเจ อาหารเจที่หากินได้ยาก และยิ่งไม่ได้ออกกำลังกายทุกวันยิ่งเสริมผลในด้านลบให้รุนแรงตามสภาพมากยิ่งขึ้น

ก็อย่างที่ว่า “ตามใจปากเป็นหมู” หากย่อหย่อนเพียงเล็กน้อย น้ำหนักก็จะดีดตัวกลับโดยไม่รอช้า ทุกคราเมื่อคิดจะหาอะไรใส่ปาก ต้องติดต่อไปอีกด้วยว่ามันเกินปริมาณที่สมควรแล้วหรือยัง ยิ่งหากวันนั้นไม่ได้ออกกำลังกายยิ่งต้องระมัดระวังการกินให้มากกว่าวันอื่นๆ อีกด้วย

ภายในสิ้นปีนี้ หากสามารถรักษาน้ำหนักให้อยู่ที่เก้าสิบกิโลได้ก็นับว่าสำเร็จ ทุกวันนี้น้ำหนักตัวที่ตั้งไว้ในไอพ็อดสำหรับเดินออกกำลังก็อยู่ที่เท่านี้ เป็นการบังคับตัวเองให้ต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อให้เผาผลาญพลังงานให้ได้เท่าเดิม