ฉันเห็นความเครียด

สัปดาห์ที่ผ่านมามีอาการนอนไม่หลับ เหมือนนาฬิกาชีวะจะจำได้ว่าคืนวันอังคารจะหิวจนนอนไม่หลับ เลยไม่ยอมนอน แต่ว่าหรือเป็นเพราะว่าการพักงีบเสียเล็กน้อยระหว่างวันจะส่งผลกระทับใหญ่โตขนาดนี้

แม้จะแก้ไขด้วยการหาอะไรใส่ปากเคี้ยว สองรอบก็แล้ว สามรอบก็แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมหลับ จนล่วงเลยเที่ยงคืนไปแล้วนั่นแหละจึงได้เวลา

อีกสาเหตุหนึ่งก็คือความเครียด มีสองงานใหญ่ที่ใกล้จะสำเร็จและกำลังจะเริ่มเป็นปัจจัยแห่งความเครียดนั้น เครียดเพราะสิ่งที่คาดหวังไม่เป็นไปดังหวัง ไม่เป็นไปตามกำหนดเวลาที่ต้องการ ทั้งที่จริงแล้วปัญหาเหล่านั้นล้วนมีทางแก้อยู่แล้ว แต่ที่เครียดเพราะไม่ต้องการเห็นปัญหาต่างหาก

เป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตจะไม่มีปัญหา หากไม่ต้องการเห็นปัญหาก็คงไม่ต้องทำอะไรเลยในชีวิต แต่ที่ผ่านมาเราเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาแทน เพราะไม่สามารถรับมือกับความเครียดที่จะตามมาเพราะความคาดหวังต่างต่างนานาในใจ ผลก็คือชีวิตไม่มีอะไรคืบหน้า

ด้วยผลบุญที่สั่งสมมากระมังที่ในที่สุดจึงเห็นก้อนความเครียดนี้ได้ เมื่อได้เห็นความเครียดนี้แล้ว ก็ต้องฝึกฝนรับมือกับความเครียดนี้ได้อย่างมีสติจริงๆ รับมือกับความเครียดได้ ก็ไม่ต้องใช้อาหารขบเคี้ยวบรรเทาอาการ

เมื่อชีวิตจะต้องก้าวหน้าไปพร้อมกับความเครียดมากมายอย่างแน่นอน การบริหารความเครียดจึงต้องอาศัยประสบการณ์ฝึกฝนอยู่เหมือนกัน

เครียด นอนไม่หลับ นอนดึก นอนไม่พอ ตื่นสาย เป็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้ระหว่างสัปดาห์อาจจะมีเช้าวันใดวันหนึ่งที่ไม่ได้เดินออกกำัลังกาย แต่ก็ไม่เครียดอยู่แล้ว แต่ถ้าสนุกปาก(กิน)มากไปก็อาจจะเครียดเพราะน้ำหนักขึ้นได้อีกเหมือนกัน

Summary Week 200743

ดีที่น้ำหนักไม่ขึ้น ยังคงอยู่ที่เก้าสิบกิโลอยู่ ตอนเดินขึ้นตาชั่งก็ลุ้นเหมือนกัน

กำลังคิดถึงแผนการออกกำลังอยู่เหมือนกัน ถึงเวลาที่ต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรือยัง จะต้องเสริมสร้างอย่างไร ยังไม่มีข้อสรุปที่เหมาะสม

ขณะที่เป้าหมายของน้ำหนักตัว ณ สิ้นปีหน้าต้องการให้อยู่ที่แปดสิบกิโล แต่หากสิ้นปีนี้ลดลงได้สักเดือนละกิโล เหลืออีกสองเดือนจะปีใหม่ก็คงดีไม่น้อย