ถึงเวลาปรับแผนมื้อเย็น

น้ำหนักชั่งเมื่อเช้าดีดกลับขึ้นไปอยู่ที่เก้าสิบเอ็ดกิโลครึ่งอีกแล้ว จริงแล้วมีดัชนีชี้วัดบอกไว้ก่อนแล้ว

จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากกางเกงขายาวที่ใส่ออกไปข้างนอกนั้นแหละ ทันทีที่เกี่ยวตะขอก็พอจะรู้สถานการณ์แล้วว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่

คงเป็นผลเลยจุดสมดุยล์ระหว่างการกินและการออกกำลังกายไปแล้วนั่นเอง จริงแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าอยากลดมื้อเย็นที่อิ่มหนำนั้นลงบ้างแล้วเหมือนกัน บวกกับสถานการณ์น้ำหนักตัววันนี้แล้ว ถึงเวลาที่ต้องปรับแผนมื้อเย็นแน่นอนแล้ว

หมดเวลาสำหรับคุ้กกี้ปีใหม่ ขอกินจุบจิบก็คงต้องควบคุมมากขึ้น ลองลดปริมาณอาหารมื้อเย็นลงดูสักหน่อย เพื่อติดตามดูว่ามีความอยากเกิดขึ้นในตอนค่ำอีกไหม

เช้านี้ต้องทำสติอยู่นานเหมือนกันกว่าจะออกวิ่งได้ เพราะไม่รู้ว่าจะปรับแผนตรงไหนดี พอละความยุ่งเหยิงได้ก็ออกวิ่งได้

สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงหลักชัยสำคัญคือเป็นการออกกำลังครบสองร้อยยี่สิบสองครั้ง เลขสวยใช้ได้ ส่วนสถิติตลอดสัปดาห์ก็ไม่ขี้เหล่นัก แม้จะต้องหยุดวันพุธหนึ่งวันเพื่อทำกิจสำคัญแต่เช้า

080119 - 222th run Summary Week 200803

คิดต่อไปว่าหากจะเพิ่มเป้าหมายประจำวันจากเจ็ดกิโลเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นแปดกิโลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้เป็นสิบกิโลในสัปดาห์ต่อไป อาจจะไม่เหมาะสมด้วยเหตุผลหลายประการ เริ่มจากข้อหัวเข่าคงจะทำงานหนักเกินไป เพราะเพียงวิ่งสิบกิโล สามวันต่อสัปดาห์ก็เกิดอาการเมื่อยล้าบ้างแล้วเหมือนกัน

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเวลา ทุกวันนี้ยังตื่นสายถึงหกโมงครึ่งอยู่ ว่าจะได้ออกวิ่งก็เลยเจ็ดโมงได้ วิ่งเสร็จก็แปดโมงกว่า ใจจริงอยากวิ่งให้เสร็จก่อนแปดโมง แต่ยังไม่สามารถตื่นให้เร็วขึ้นได้ เพราะเท่าที่สังเกต เวลาตื่นนอนในปัจจุบันค่อยข้างเหมาะสมกับนาฬิกาภายในร่างกายอยู่เหมือนกัน แม้จะให้นอนเร็วขึ้น เพื่อตื่นเช้าขึ้น แต่ยังไม่รู้สึกว่าตื่นนอนได้อย่างมีคุณภาพ แม้จะใช้เวลานอนเท่าเดิม

คงต้องศึกษาและสังเกตเพิ่มเติมอีกหน่อย จะได้ปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้