จากจุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวานนี้
***ว่าด้วยเรื่องของบุหรี่ นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2549 ว่า จะเน้นเรื่องการป้องกันโรค ลดปัญหาการเจ็บป่วยให้น้อยลง โดยเฉพาะโรคที่ป้องกันได้ ที่เป็นปัญหาอันดับ 1 ของประเทศขณะนี้ ได้แก่ โรคมะเร็ง เสียชีวิตปีละ 45,759 คน หรือตายชั่วโมงละ 5 คน ซึ่งน่ากลัวมาก โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการสูดควันพิษจากบุหรี่
***ผลสำรวจล่าสุดทั่วประเทศมีคนสูบบุหรี่มากถึง 11.3 ล้านคน จึงต้องคุ้มครองสุขภาพของคนอีก 52 ล้านคนที่ไม่ได้สูบ แต่ได้รับควันพิษจากบุหรี่ โดยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2548 ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ ได้แก่ การกำหนดเครื่องหมายของเขตสูบบุหรี่และเขตปลอดบุหรี่ และการกำหนดพื้นที่ปลอดบุหรี่เพิ่มเติมจากกฎหมายเดิมที่มี 31 ประเภท เพิ่มอีก 3 ประเภท
คาดว่าจะมีผลใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือนมกราคมนี้ แน่นอน ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขใหม่ ได้เพิ่มพื้นที่ปลอดบุหรี่ ได้แก่ ล็อบบี้โรงแรมที่ติดแอร์ทุกแห่ง สถานพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทยและธุรกิจบริการสุขภาพ ได้แก่ สปาเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อสุขภาพ และร้านเสริมสวยเพื่อสุขภาพ
***และแก้ไขประกาศเดิมซึ่งครอบคลุมเฉพาะตู้รถไฟชนิดปรับอากาศ แต่ประกาศฉบับใหม่นี้จะครอบคลุมตู้โดยสารรถไฟทั้งขบวน สำหรับประกาศกระทรวงที่กำหนดเครื่องหมายของเขตสูบบุหรี่และเขตปลอดบุหรี่ ได้มีการเพิ่มป้ายแสดงเขตปลอดบุหรี่ชนิดเล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร เป็นป้ายวงกลม พื้นสีขาว โดยมีขอบสีแดง กว้างไม่ต่ำกว่า 0.5 เซนติเมตร มีรูปมวนบุหรี่ซิกาแร็ต และควันสีดำอยู่ตรงกลาง มีเส้นทึบสีแดงพาดทับ ขนาดกว้างเท่าขอบสีแดง ทั้งนี้ อาจจัดให้มีข้อความ ‘ห้ามสูบบุหรี่ ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2,000 บาท’ หรือพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในความหมายเดียวกัน
ผมเขียนเรื่องนี้มาตั้ง 2 ปีแล้วว่าจำนวนคนไทยที่ไม่สูบุหรี่มีมากกว่าที่สูบอยู่มาก ทำไมไม่รู้จักคุ้มครองคนเหล่านี้ ดูต่อไปก็แล้วกันว่าพี่จะกล้าทำอะไรให้เป็นมรรคเป็นผลบ้าง
ขอก่อนได้ไหม ให้ทุกตารางนิ้วของโรงพยาบาลทุกแห่งนั้นปลอดบุหรี่จริงๆ ลองไปดูที่ศิริราชแห่งเดียวก็หมดอารมณ์แล้ว